บทความวิทยาศาสตร์
วันที่ 20 พฤศจิกายน
พ.ศ. 2554
ครูไม่ต้องสอน!
เพราะที่นี่เรียนวิทยาศาสตร์แบบ “แฮนด์-ออน”
ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์ปฏิบัติการของนานมีบุ๊คส์
ไม่มีครูสอนว่าต้องทำอะไร สิ่งที่ต้องทำคือเล่นๆ เพื่อนำไปสู่การหาคำตอบด้วยตัวเอง
ศูนย์วิทยาศาสตร์แห่งนี้ไม่มีครูมาคอยสอน
ไม่มีข้อมูลอธิบายว่าเครื่องมืออยู่ตรงหน้านั้นมีไว้ทำอะไร
สิ่งผู้ที่เดินเข้าไปในศูนย์แห่งนี้ต้องคือ “ทดลองเล่น” เมื่อสนุกสนานจนพอใจแล้วก็บ้านไปหาคำตอบว่า
ทำไมมันเป็นเช่นนั้น? นี่คือวิถีการเรียนรู้แบบ “แฮนด์-ออน” ซึ่งได้ถ่ายทอดจากเยอรมนีมาสู่เมืองไทย
เมื่อก้าวสู่ศูนย์วิทยาศาสตร์ปฏิบัติการ
(NANMEEBOOKS
Hands-on Science Center in association with PHANOMENTA Ludencheid) ของบริษัท
นานมีบุ๊คส์ จำกัด นั้นสิ่งที่ทีมข่าววิทยาศาสตร์
ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ได้เห็นคือเครื่องเล่นที่วางตามจุดต่างๆ
ให้เราเข้าไปทดลองเล่น เครื่องเล่นเหล่านั้นเป็นสถานีทดลองให้เราได้เรียนรู้วิทยาศาสตร์ด้วยการลงมือทำ
และไม่มีคำอธิบายว่าสิ่งที่ได้สัมผัสนั้นเป็นเพราะอะไรตัวอย่างเช่นกระจกเว้าบานใหญ่ซึ่งวางเยื้องทางเข้า
เมื่อทดลองเดินตรงเข้าไปจนพบว่าใบหน้าของเราค่อยๆ
หายไปแล้วกลายเป็นภาพหัวกลับในที่สุด หรือกระจก 3 บานที่สามารถหมุนได้
เมื่อทดลองหมุนปรากฏว่าลวดลายต่างๆ นั้นเคลื่อนที่ได้ หรือใบหน้าไอน์สไตน์ที่เหมือนกันมากเมื่อมองตรงๆ
แต่เมื่อเดินผ่านไป ใบหน้าหนึ่งจะมองตามคุณตาไม่กระพริบ
เหล่านี้เป็นตัวอย่างสถานีทดลองซึ่งมีทั้งหมด 26 สถานี ถ้าใครคิดว่าระยะทางสั้นที่สุดจะทำให้เราถึงหมายเร็วที่สุดอาจต้องเปลี่ยนใจเมื่อทดลองเล่นที่สถานีทางด่วน
(The Big Race) ซึ่งมีเส้นทางให้ปล่อยลูกบอล 3 เส้นทาง คือ ทางโค้ง ทางตรงและทางเว้า แต่เราต้องกลับไปทางคำตอบว่า
เหตุใดทางตรงซึ่งเป็นเส้นทางที่สั้นที่สุดจึงไม่ใช่เส้นทางที่ลูกบอลหล่นไปถึงเป้าหมายก่อนส่วนเหล่านี้เป็นการเรียนรู้แบบแฮนด์-ออน
(Hands-on) ที่มีต้นแบบมาจากศูนย์วิทยาศาสตร์เฟโนเมนตา (PHANOMENTA)
http://www.phaenomenta.com/ เมืองลูเดนไชด์ (Ludenchied) เยอรมนี โดย นางสุวดี จงสถิตย์วัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท นานมีบุ๊คส์
จำกัด กล่าวว่า
เธอมีความตั้งใจอยากสร้างแหล่งเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นการทำกิจกรรมลักษณะนี้บ้าง
หลังจากที่มีโอกาสไปพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ในหลายประเทศ
เมื่อมีความพร้อมมากขึ้นจึงพยายามต่อยอดการเรียนการเรียนรู้จากการอ่านสู่การปฏิบัติจริง
โดยเริ่มจากการนำสื่อวิทยาศาสตร์มาจำหน่ายจนกระทั่ง มร.โยฮาคิม เฮคเคอร์ (Joachim
Hecker) นักเขียนเยอรมัน เจ้าของผลงาน “บ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย”
ของนานมีบุ๊คส์ได้แนะนำนางสุวดีให้รู้จัก มร.ฮันส์-เฮนนิง ลังคิทช์
(Hans-Henning Langkitsch) คณะกรรมการศูนย์วิทยาศาสตร์เฟโนเมนตา
เยอรมนี เมื่อเดือน ต.ค.53 และได้เริ่มหารือกันเมื่อเดือน
ก.พ.54 ที่ผ่านมา
และมีการถ่ายทอดองค์ความรู้ของศูนย์วิทยาศาสตร์ดังกล่าวสู่เมืองไทยในที่สุด ซึ่งกรรมการผู้จัดการนานมีบุ๊คส์กล่าวว่าเยอมนีนั้นมีศูนย์วิทยาศาสตร์ในชุมชนอยู่มาก
และเน้นว่าเยอรมันนั้นถือเป็น “แม่แบบ” ของการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ชุมชน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น