สรุปงานวิจัย
ชื่องานวิจัย ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรม
ศิลปสร้างสรรค์แบบเน้นกระบวนการ
ปริญญานิพนธ์
ของ
ชนกพร ธีระกุล
การศึกษาวิจัยครั้งนี้เป็นวิจัยเชิงทดลอง ซึ่งมุ่งศึกษาเปรียบเทียบทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์แบบเน้นกระบวนการ
และแบบปกติ ซึ่งสรุปขั้นตอนการศึกษาตามลำดับ ดังนี้
จุดมุ่งหมายของการศึกษาค้นคว้า
เพื่อเปรียบเทียบทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมศิลปสร้างสรรค์แบบเน้นกระบวนการและแบบปกติ
สมมติฐานในการศึกษาค้นคว้า
เด็กปฐมวัยที่รับการจัดกิจกรรมศิลปสร้างสรรค์แบบเน้นกระบวนการ
และที่ได้รับการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์แบบปกติ มีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์แตกต่างกัน
ขอบเขตของการศึกษาค้นคว้า
การศึกษาครั้งนี้ มีขอบเขตการศึกษา ดังนี้
1.ประชากร ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้
คือ เด็กนักเรียนชาย-หญิง อายุ 3 ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ชั้นอนุบาลปีที่ 1 ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2540 จำนวน 3 ห้องเรียน ห้องเรียนละ 30 คน ของโรงเรียนอนุบาลกุ๊กไก่ เขตพระโขนง
กรุงเทพมหานคร สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน
2.กลุ่มตัวอย่าง กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้
คือ เด็กนักเรียนชาย-หญิง อายุ 3 ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ชั้นอนุบาลปีที่ 1 ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2540 โรงเรียนอนุบาลกุ๊กไก่ เขตพระโขนง
กรุงเทพมหานคร สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน
จำนวน 1 ห้องเรียน มีจำนวนทั้งสิ้น 30 คน ซึ่งได้มาโดยมีการสุ่มอย่างง่าย(Simple Random
Sampling)
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า
การศึกษาค้นคว้านี้มีเครื่องมือในการศึกษาครั้งนี้
1.แผนการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ ซึ้งผู้วิจัยสร้างขึ้นประกอบไปด้วยชื่อกิจกรรม
จุดประสงค์ ขั้นตอนการดำเนินกิจกรรม
ชื่อวัสดุอุปกรณ์ และประเมินผล
โดยแผนการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์แบ่งเป็น 2 แบบ ได้แก่
1.1.แผนการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์แบบเน้นกระบวนการ ซึ่งผู้วิจัยสร้างขึ้นจำนวน 40 แผน
1.2.แผนการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์แบบปกติ ซึ่งใช้ตามแผนการจัดประสบการณ์ชั้นอนุบาลที่ 1 เล่ม1 ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน พ.ศ.2539 โดยผู้วิจัยได้คัดเลือกกิจกรรมให้สอดคล้องกับกิจกรรมศิลปสร้างสรรค์แบบเน้นกระบวนการ
จำนวน 40 แผน
2.แบบทดสอบทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ผู้วิจัยสร้างขึ้น เป็นแบบทดสอบที่ใช้คำถามที่เป็นรูปภาพชนิด 3 ตัวเลือก และแบบทดสอบภาคปฏิบัติรวมทั้งสิ้นจำนวน 6 ชุด ดังนี้
2.1.แบบทดสอบที่เป็นรูปภาพมี 5 ฉบับ คือ
2.1.1.แบบทดสอบวัดทักษะการสังเกต
จำนวน 8 ข้อ
2.1.2.แบบทดสอบวัดทักษะการจำแนก
จำนวน 8 ข้อ
2.1.3.แบบทดสอบวัดทักษะการแสดงปริมาณ จำนวน 8 ข้อ
2.1.4.แบบทดสอบวัดทักษะการลงความคิดเห็น
จำนวน 5 ข้อ
2.1.5.แบบทดสอบวัดทักษะการหามิติสัมพันธ์ จำนวน 8 ข้อ
2.2.แบบทดสอบภาคปฏิบัติมี 2 ฉบับ
คือ
2.2.1 แบบทดสอบวัดทักษะการสื่อความหมาย
จำนวน 8 ข้อ
2.2.2 แบบทดสอบวัดทักษะการลงความเห็น
จำนวน 5 ข้อ
จากนั้นทำแบบทดสอบ ซึ่งผ่านการตรวจแก้ไขจากผู้เชี่ยวชาญ
และผ่านกระบวนการวิเคราะห์หาคุณภาพด้านความยากง่าย(p) ได้ค่าระหว่าง .40 -
.80 ค่าอำนาจจำแนก(D)
ตั่งแต่ .25 ขึ้นไป
และหาค่าความเชื่อมั่น โดใช้วิธีของคูเดอร์-ริชาร์ดสัน(Kuder-Richardson) ที่คำนวณจากสูตร KR-20 ได้ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ .90
สรุปผลการศึกษาค้นคว้า
เด็กปฐมวัยที่ได้รับ การจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์แบบเน้นกระบวนการและเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจารจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์แบบปกติ
มีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ซึ่งสอดคล้องกับสมมติฐาน และเมื่อเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยของคะแนนทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของกลุ่มตัวอย่าง
พบว่า กลุ่มทดลองที่ได้รับการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์แบบเน้นกระบวนการ
มีค่าเฉลี่ 39.733 สำหรับกลุ่มควบคุมที่ได้รับการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์แบบปกติ
มีค่าคะแนนเฉลี่ย 31.066
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น